เที่ยวดีมีคืน 2568: เที่ยวเมืองรอง ลดหย่อนภาษี 30,000 บาท

Summarize Post (สรุปใจความสำคัญ):

เที่ยวดีมีคืน 2568 คือมาตรการลดหย่อนภาษีค่าที่พักและร้านอาหาร (ที่จด VAT) ในวงเงินใช้จ่ายสูงสุด 20,000 บาท

ทีเด็ดคือ “เมืองรอง” (55 จังหวัด) ที่ให้สิทธิ์ลดหย่อน 1.5 เท่า (จ่าย 20,000 ลดได้ 30,000) ส่วนเมืองหลักได้ 1 เท่า

ต้องใช้ e-Tax Invoice เท่านั้น สำหรับค่าใช้จ่าย 10,000 บาทหลัง (ยอด 10,001 – 20,000 บาท) และใช้สิทธิ์ได้ระหว่าง 29 ต.ค. – 15 ธ.ค. 68

ลองนึกภาพตามนะครับ… คุณไปเที่ยวพักผ่อนช่วงปลายปี กินอาหารทะเลอร่อยๆ นอนโรงแรมวิวสวยๆ แล้วพอถึงเวลายื่นภาษีต้นปีหน้า คุณสามารถเอาค่าใช้จ่ายเหล่านั้นมา “หัก” ออกจากรายได้ของคุณได้ ทำให้คุณเสียภาษีน้อยลง!

“เที่ยวดีมีคืน 2568” คืออะไร? ทำไมสายเที่ยวต้องตาลุกวาว

นี่แหละครับคือคอนเซ็ปต์ของ “เที่ยวดีมีคืน 2568”

มันคือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากกระทรวงการคลัง ที่ออกแบบมาเพื่อ “จูงใจ” ให้พวกเราคนไทย (ที่มีภาระต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดา) ออกไปใช้จ่ายเงินกับการท่องเที่ยวในประเทศในช่วงไฮซีซั่นปลายปีครับ

พูดง่ายๆ คือ รัฐช่วยเราประหยัดภาษี แลกกับการที่เราช่วยอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยเฉพาะใน “เมืองรอง” ที่เดี๋ยวเราจะมาเจาะลึกกันว่าทำไมมันถึง “โคตรคุ้ม”

เจาะลึกเงื่อนไข “เที่ยวดีมีคืน 2568” ที่คุณต้องรู้ (ฉบับย่อยง่าย)

ตรงนี้สำคัญมากครับ ผมขอสรุปเป็นข้อๆ ให้ชัดเจน จะได้ไม่พลาดสิทธิ์กัน

ใครใช้สิทธิ์ได้บ้าง? (เช็กเลย!)

สิทธิ์นี้สำหรับ “บุคคลธรรมดา” เท่านั้นครับ (ย้ำว่าบุคคลธรรมดา) ที่มีเงินได้และต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ (ภ.ง.ด. 90/91)

• ไม่รวม ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือ คณะบุคคล ที่ไม่ใช่นิติบุคคลนะครับ

ช่วงเวลาทอง: ใช้สิทธิ์ได้เมื่อไหร่?

ต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นและจ่ายจริงในช่วงเวลาที่กำหนดเป๊ะๆ เท่านั้น นั่นคือ:

• เริ่ม: 29 ตุลาคม 2568
• สิ้นสุด: 15 ธันวาคม 2568

รวมระยะเวลาสั้นๆ แค่เดือนครึ่งเท่านั้นครับ วางแผนทริปกันให้ดีเลย!

ใช้จ่ายอะไรได้บ้าง? (และอะไรที่ ไม่ได้)

สิ่งที่เอามาลดหย่อนได้ หลักๆ คือ 2 หมวดนี้ครับ:

1. ค่าที่พัก: เช่น ค่าโรงแรม, รีสอร์ต, โฮมสเตย์ไทย, หรือที่พักอื่นๆ ที่ไม่ใช่โรงแรม (ต้องจดทะเบียน VAT หรือมีใบอนุญาตถูกต้อง)
2. ค่าอาหารและบริการ: ใช้ได้กับร้านอาหารและเครื่องดื่มที่จดทะเบียน VAT (สังเกตร้านที่มีป้าย VAT หรือถามพนักงานได้เลย)

ข้อควรระวังสุดๆ! สิ่งที่มักเข้าใจผิดและ “ลดหย่อนไม่ได้”

• ค่าตั๋วเครื่องบิน, ค่ารถไฟ, ค่าน้ำมันรถ (อันนี้ไม่ได้เลยครับ)
• ค่าซื้อของฝาก ของที่ระลึกต่างๆ
• ค่าเข้าชมสถานที่ (เช่น อุทยานแห่งชาติ, พิพิธภัณฑ์)
• ค่าบริการนำเที่ยว (ไกด์)
• ค่าสปา, คาราโอเกะ, หรือบริการบันเทิงอื่นๆ
• ค่าที่พักหรือร้านอาหารที่ “ไม่ได้” จดทะเบียน VAT

ทีเด็ดอยู่ตรงนี้! “เมืองหลัก” vs “เมืองรอง” ลดหย่อนต่างกันยังไง?

นี่คือหัวใจของมาตรการรอบนี้ครับ รัฐบาลอยากกระจายรายได้ ไม่อยากให้เงินไปกระจุกตัวแค่เมืองท่องเที่ยวดังๆ เขาเลยวางเงื่อนไขมาแบบนี้:

1. เที่ยว “เมืองหลัก” (เมืองท่องเที่ยวทั่วไป)

• คุณจะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี 1 เท่า ตามที่จ่ายจริง
• เพดานวงเงินใช้จ่ายสูงสุด: 20,000 บาท
• ตัวอย่าง: คุณไปเที่ยวกระบี่ (เมืองหลัก) จ่ายค่าโรงแรม+ค่าอาหารไป 15,000 บาท คุณก็ได้สิทธิ์ลดหย่อน 15,000 บาท

2. เที่ยว “เมืองรอง” (55 จังหวัดที่กำหนด)

• คุณจะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี 1.5 เท่า ของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในเมืองรอง!
• ตัวอย่าง: คุณไปเที่ยวน่าน (เมืองรอง) จ่ายค่าโรงแรม+ค่าอาหารไป 15,000 บาท
• วิธีคิด: 15,000 บาท x 1.5 = 22,500 บาท!
• นี่คือยอดที่คุณเอาไป “หัก” ออกจากรายได้ได้เลยครับ เท่ากับว่าคุณประหยัดภาษีได้มากขึ้น 50% ฟรีๆ!

แล้ววงเงินสูงสุดจริงๆ คือเท่าไหร่? (เคลียร์ชัดๆ)

วงเงิน “ค่าใช้จ่าย” ที่รัฐให้เราใช้สิทธิ์คือ รวมกันไม่เกิน 20,000 บาทต่อคน ครับ

แต่… ถ้าคุณฉลาดพอที่จะใช้จ่ายทั้ง 20,000 บาทนี้ใน “เมืองรอง” ทั้งหมด ยอด “ลดหย่อน” ที่คุณจะได้จะพุ่งไปสูงสุดถึง:

20,000 บาท (ค่าใช้จ่าย) x 1.5 (สิทธิ์เมืองรอง) = 30,000 บาท (ยอดลดหย่อนภาษี)

เห็นไหมครับว่าต่างกันเยอะมาก! นี่คือเหตุผลว่าทำไมทริปนี้ “เมืองรอง” เท่านั้นที่คุ้มที่สุด

เปิดวาร์ป 55 จังหวัด “เมืองรอง” น่าเที่ยว (ภาคไหนโดนใจ?)

รัฐบาลประกาศลิสต์มาจุกๆ 55 จังหวัด (และบางอำเภอในเมืองหลัก) ที่เข้าข่ายเป็นเมืองรอง ผมขอยกตัวอย่างเด็ดๆ มาเรียกน้ำย่อยครับ:

• ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน, น่าน, พะเยา, แพร่, ลำพูน, ลำปาง, สุโขทัย, เพชรบูรณ์
• ภาคอีสาน: เลย, บุรีรัมย์, หนองคาย, สกลนคร, อุบลราชธานี, ชัยภูมิ, มุกดาหาร
• ภาคกลาง: ราชบุรี, สมุทรสงคราม, ลพบุรี, สุพรรณบุรี, อ่างทอง, ชัยนาท
• ภาคตะวันออก: จันทบุรี, ตราด, สระแก้ว, ปราจีนบุรี
• ภาคใต้: ตรัง, สตูล, พัทลุง, ระนอง, ชุมพร, นครศรีธรรมราช

ยังมีอีกเพียบครับ รวมถึงบางอำเภอในจังหวัดหลัก เช่น อ.วังน้ำเขียว (โคราช) หรือ อ.เชียงคาน (เลย) ที่ถูกนับเป็นพื้นที่เมืองรองด้วย ต้องเช็กประกาศทางการให้ชัวร์อีกทีนะครับ

โปรโมชั่น

• ดูโปรเกี่ยวกับทัวร์อืนๆ ทั้งไทย และต่างประเทศ 

ข่าวประชาสัมพันธ์

• อาจารย์โย พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องที่ดินครบวงจร! ไม่ว่าคุณจะต้องการ สร้างบ้านขาย หรือมองหาแนวทางทำเงินจากที่ดินเปล่า เราจะช่วยวางแผนการลงทุนให้คุณอย่างมืออาชีพ
• หมดปัญหายุ่งยากเรื่องการขายที่ดินเงินผ่อน! ระบบออนไลน์ ของเราช่วยจัดการตั้งแต่สัญญาจนถึงการชำระเงิน เหมาะสำหรับเจ้าของและนายห[ez-toc]น้าทุกคน ใช้งานง่ายแค่มีอินเทอร์เน็ต!
• อยากสำเร็จทุกการเจรจา? ทำนายเบอร์มือถือฟรี คู่ค้า ลูกค้า หรือคนรักก่อนคุยงาน/นัดเจอ ช่วยให้คุณเข้าใจเขามากขึ้น เตรียมพร้อมรับมือ วางแผนได้ถูกทาง งานสำเร็จ รักราบรื่น!
• เหนื่อยไหมที่ธุรกิจไม่มีใครเห็น? ให้เราช่วย! สร้างเว็บ WordPress สวยๆ พร้อมทำ SEO On-Page ครบสูตร ดึงลูกค้าใหม่ๆ เข้าสู่ธุรกิจคุณโดยอัตโนมัติ

“e-Tax Invoice” พระเอกตัวจริงของงานนี้!

นี่คือกับดักที่คนพลาดกันเยอะที่สุดในมาตรการลดหย่อนภาษีช่วงหลังๆ ครับ นั่นคือเรื่อง “ใบกำกับภาษี”

ในวงเงิน 20,000 บาทที่เราจะใช้สิทธิ์ รัฐบาลแบ่งกฎการใช้เอกสารเป็น 2 ส่วนชัดเจน:

ส่วนที่ 1: ค่าใช้จ่าย 10,000 บาทแรก

• คุณสามารถใช้ ใบกำกับภาษีแบบกระดาษ (ใบเสร็จที่เราคุ้นเคย มีชื่อ-ที่อยู่-เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของเราครบถ้วน)
• หรือ ใช้ e-Tax Invoice (ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์) ก็ได้

ส่วนที่ 2: ค่าใช้จ่าย 10,000 บาทถัดไป (บาทที่ 10,001 – 20,000)

• ต้องใช้ “e-Tax Invoice & e-Receipt” เท่านั้น!
• ถ้าคุณใช้ใบกำกับภาษีแบบกระดาษในส่วนนี้ จะไม่สามารถนำมาลดหย่อนได้เลยครับ (เท่ากับเสียสิทธิ์ไปฟรีๆ)

ทำไมต้องเป็น e-Tax? เพราะรัฐบาลกำลังผลักดันระบบภาษีดิจิทัลเต็มรูปแบบครับ e-Tax มันเชื่อมข้อมูลตรงเข้าระบบของกรมสรรพากรเลย ง่ายต่อการตรวจสอบ ไม่ต้องเก็บกระดาษให้วุ่นวาย และป้องกันการโกงได้ดีกว่า

เทคนิคจากประสบการณ์ (E-E-A-T): ก่อนจ่ายเงินทุกครั้ง! ไม่ว่าจะร้านอาหารหรือโรงแรม ถามเขาก่อนเลยครับว่า “ขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ e-Tax ได้ไหมครับ/คะ?” ถ้าร้านไหนทำหน้างงๆ หรือบอกว่ามีแต่แบบกระดาษ คุณต้องตัดสินใจเลยว่ายอดนี้จะนับเป็น 10,000 บาทแรก หรือจะยอมเสียสิทธิ์ไปถ้าโควตากระดาษเต็มแล้ว

ข่าวดี! ไม่ได้มีแค่คนเที่ยว “ภาคธุรกิจ” ก็ได้เฮด้วย

มาตรการนี้ไม่ได้เอาใจแค่เราๆ ครับ แต่ยังช่วยผู้ประกอบการโดยตรงด้วย

1. บริษัท/นิติบุคคล (จัดสัมมนา)

ถ้าบริษัทของคุณจัดอบรมสัมมนาให้พนักงานในประเทศช่วงเวลาเดียวกัน (29 ต.ค. – 15 ธ.ค. 68) สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักรายจ่ายบริษัทได้เพิ่มขึ้น!

• จัดในเมืองรอง: หักได้ 2 เท่า
• จัดในเมืองหลัก: หักได้ 1.5 เท่า
• เงื่อนไข: ต้องใช้ e-Tax Invoice เท่านั้น (ยกเว้นค่าขนส่งที่ใช้ e-Receipt ได้) นี่คือโอกาสทองของฝ่าย HR ที่จะจัด outing เลยครับ!

2. ธุรกิจโรงแรม (ปรับปรุงที่พัก)

ใครทำโรงแรมฟังทางนี้! รัฐช่วยค่าปรับปรุงครับ หากคุณมีการ “ต่อเติม, ปรับปรุง, ขยาย” อาคารหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ยึดติด (ไม่ใช่แค่ซ่อมแซมเล็กๆ น้อยๆ)

• ช่วงเวลา: 29 ต.ค. 68 – 31 มี.ค. 69 (ยาวกว่า!)
• สิทธิ์: หักรายจ่ายได้ 2 เท่า
• นี่คือการจูงใจให้โรงแรมต่างๆ รีบอัปเกรดตัวเองให้สวยงาม พร้อมรับนักท่องเที่ยวครับ

กินหรูก็คุ้ม! ร้านอาหารดังที่เข้าร่วมโครงการ

หลายคนกังวลว่า “เที่ยวดีมีคืน” จะใช้ได้แค่ร้านค้าท้องถิ่นหรือเปล่า? คำตอบคือ “ไม่จริงครับ!”

แค่เป็นร้านที่จดทะเบียน VAT และสามารถออก e-Tax Invoice ให้คุณได้ (สำหรับยอด 10,000 บาทหลัง) ก็ใช้ได้หมด ซึ่งรวมถึงเชนร้านอาหารดังๆ มากมายที่พวกเราคุ้นเคยกันดี:

• สายปิ้งย่าง/ชาบู: Mo-Mo-Paradise, Bar B Q Plaza, MK Restaurant, Hitori Shabu, Bonus Suki
• สายอินเตอร์/ฟาสต์ฟู้ด: Sizzler, The Pizza Company, Swensen’s
• สายอาหารไทย/ซีฟู้ด: แหลมเจริญ ซีฟู้ด

(เช็กกับหน้าร้านอีกครั้งเพื่อความชัวร์นะครับ) นี่ทำให้การใช้สิทธิ์ง่ายขึ้นเยอะเลยครับ เพราะมื้อพิเศษในห้าง หรือมื้อฉลองกับครอบครัว ก็สามารถเก็บใบเสร็จมาลดหย่อนภาษีได้หมด แค่อย่าลืม! “ขอ e-Tax Invoice”

บทสรุป: “เที่ยวดีมีคืน 2568” คุ้มจริงไหม? และใครได้ประโยชน์?

ในฐานะคนทำคอนเทนต์ที่วิเคราะห์มาตรการรัฐมาหลายตัว ผมมองว่า “เที่ยวดีมีคืน 2568” เป็นมาตรการที่ “Win-Win” ทุกฝ่ายครับ

• ประชาชน (อย่างเราๆ): ได้เที่ยวพักผ่อน และได้เงินคืนภาษีจริง (โดยเฉพาะคนที่ฐานภาษีสูงๆ ยิ่งคุ้ม)
• ผู้ประกอบการ: โรงแรม ร้านอาหาร มีลูกค้าเพิ่มขึ้นชัดเจนในช่วงเวลาสั้นๆ
• เศรษฐกิจท้องถิ่น (เมืองรอง): นี่คือผู้ชนะตัวจริง! เงินที่ไม่เคยไปถึง ถูกอัดฉีดเข้าไปโดยตรง สร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างที่มาตรการอื่นทำได้ยาก

มันคือการ “ใช้ภาษี” มาเป็น “เหยื่อล่อ” ให้เงินหมุนเวียนไปยังจุดที่ต้องการครับ ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว และมีแพลนจะเที่ยวปลายปีพอดี… นี่คือ “กำไร” ครับ!

อย่าปล่อยให้สิทธิ์นี้หลุดลอยไป วางแผนทริปเมืองรองของคุณตั้งแต่วันนี้ แล้วไปเที่ยวแบบฉลาดๆ ที่ได้ทั้งความสุข และได้ทั้งเงินคืนภาษีกันครับ!

ตารางสรุป 55 จังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง (เที่ยวดีมีคืน 2568)

ส่งออกไปยังชีต

ข้อควรจำ: นอกจาก 55 จังหวัดนี้ ยังมี พื้นที่บางอำเภอใน 15 จังหวัดหลัก (เช่น บางอำเภอในกระบี่, กาญจนบุรี, เชียงใหม่ ฯลฯ) ที่ถูกนับเป็น “เมืองรอง” ด้วยครับ แนะนำให้ตรวจสอบประกาศจากกรมสรรพากรอย่างเป็นทางการอีกครั้งก่อนวางแผนเดินทางนะครับ

ตารางตัวอย่างร้านอาหาร (ที่คาดว่าจะเข้าร่วม “เที่ยวดีมีคืน 2568”)

ข้อควรจำ: นี่เป็นเพียง ตัวอย่าง จากแบรนด์ดังที่อยู่ในระบบ VAT ครับ วิธีที่ดีที่สุดคือ ถามพนักงานหน้าร้าน “ก่อน” ใช้บริการทุกครั้ง ว่า “สามารถออก e-Tax Invoice เต็มรูปแบบ ได้หรือไม่”

เคล็ดลับสำคัญ

• ร้านอาหารท้องถิ่น (Local Restaurants): แม้จะเป็นร้านอร่อยในเมืองรอง แต่ถ้าเขาเป็น “ร้านค้าบุคคลธรรมดา” หรือ “ไม่ได้จด VAT” (เช่น ร้านตามสั่ง, สตรีทฟู้ด) จะไม่สามารถ นำมาลดหย่อนภาษีได้ครับ
• กุญแจสำคัญคือ “e-Tax”: ย้ำอีกครั้งว่า วงเงิน 10,000 บาทแรก ใช้ใบกำกับภาษีแบบ กระดาษ ได้ แต่ 10,000 บาทหลัง (บาทที่ 10,001 – 20,000) ต้องเป็น e-Tax Invoice เท่านั้น ดังนั้น เลือกร้านที่มั่นใจว่าออก e-Tax ได้ จะปลอดภัยที่สุดครับ

คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับ “เที่ยวดีมีคืน 2568”

1. ซื้อของฝากจากร้านค้า OTOP ในเมืองรอง ลดหย่อนได้ไหมครับ? ตอบ: ไม่ได้ครับ มาตรการนี้เน้นเฉพาะ “ค่าที่พัก” และ “ค่าอาหาร/บริการในร้านอาหาร” เท่านั้น ค่าซื้อสินค้า ของฝาก หรือของที่ระลึก ไม่สามารถนำมาลดหย่อนได้ครับ

2. ผมขับรถไปเที่ยวเอง “ค่าน้ำมัน” หรือ “ค่าทางด่วน” ใช้ลดหย่อนได้หรือเปล่า? ตอบ: ไม่ได้เช่นกันครับ มาตรการนี้ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการเดินทางทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำมัน, ค่าตั๋วเครื่องบิน, ค่ารถไฟ หรือค่ารถทัวร์ครับ

3. ถ้าผมไปเที่ยวเมืองหลัก (เช่น ภูเก็ต) แต่แวะนอน “เมืองรอง” (เช่น พังงา) 1 คืน จะคิดสิทธิ์ยังไง? ตอบ: คิดแยกตามจริงครับ! ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในภูเก็ต (ร้านอาหาร, ที่พัก) ก็ได้ลดหย่อน 1 เท่า ส่วนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในพังงา (ร้านอาหาร, ที่พัก) ก็ได้ลดหย่อน 1.5 เท่าครับ ระบบของสรรพากรฉลาดพอที่จะแยกแยะได้จากใบกำกับภาษีครับ (ตราบใดที่รวมกันทั้งทริปไม่เกินวงเงิน 20,000 บาท)

4. ต้อง “ลงทะเบียน” ผ่านแอปฯ หรือเว็บไซต์ เหมือน “คนละครึ่ง” ไหม? ตอบ: ไม่ต้องครับ! “เที่ยวดีมีคืน” ไม่ใช่การลงทะเบียนรับเงิน แต่เป็น “สิทธิ์ลดหย่อนภาษี” คุณแค่เที่ยวและใช้จ่ายตามปกติ หน้าที่ของคุณคือ “เก็บหลักฐานใบกำกับภาษี” (ทั้งแบบกระดาษและ e-Tax) ให้ครบถ้วน แล้วนำไปกรอกยื่นภาษี ภ.ง.ด. 90/91 ในช่วงต้นปี 2569 ครับ

5. ผมมีลูก ใช้สิทธิ์ของลูกมาลดหย่อนเพิ่มได้ไหม? ตอบ: สิทธิ์นี้เป็นสิทธิ์ “ต่อคน” ที่มีเงินได้และเสียภาษีครับ หากลูกของคุณยังไม่มีรายได้ ก็ไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้ แต่ถ้าคุณและคู่สมรสต่างก็มีเงินได้และยื่นภาษี (ไม่ว่าจะแยกยื่นหรือยื่นร่วม) ก็สามารถใช้สิทธิ์ได้ทั้งคู่ คนละ 20,000 บาท (รวมเป็นวงเงิน 40,000 บาท) ครับ

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

• สรุป “เที่ยวดีมีคืน 2568 ลดหย่อนภาษี” กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว – โปรแกรมบัญชี ออนไลน์ สำหรับนักธุรกิจยุคใหม่ – etaxeasy.com
• รวมร้านดังร่วม “โครงการเที่ยวดีมีคืน 2568” ที่ไหนร่วมบ้างคลิกเลย
• เที่ยวดีมีคืน 2568 เช็กสิทธิ์ง่าย ๆ พร้อมลิสต์ 55 เมืองรองน่าเที่ยว

การวางแผนเที่ยวไทยปลายปี… แล้วทริปใหญ่ “ต่างประเทศ” ปีหน้าล่ะครับ?

สุดยอดเลยครับ! ตอนนี้เราทุกคนคงมีไอเดียเจ๋งๆ สำหรับการไปเที่ยว “เมืองรอง” เพื่อใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีกันแล้วใช่ไหมครับ การเที่ยวในประเทศช่วงปลายปีเป็นอะไรที่วิเศษมาก…

แต่ผมเชื่อว่า… ความฝันของนักเดินทางตัวจริง ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในประเทศ!

ในขณะที่คุณกำลังสนุกกับการวางแผนทริปสั้นๆ ในไทยเพื่อรับสิทธิ์ “เที่ยวดีมีคืน” ลองจินตนาการถึง “รางวัลชิ้นใหญ่” ที่คุณจะมอบให้ตัวเองในปีหน้าสิครับ… ภาพหิมะโปรยปรายที่ญี่ปุ่น? การยืนชมสถาปัตยกรรมสุดอลังการในยุโรป? หรือการผจญภัยในดินแดนใหม่ๆ ที่คุณไม่เคยเห็น?

การเที่ยวต่างประเทศมีความซับซ้อนมากกว่า ทั้งเรื่องวีซ่า, ตั๋วเครื่องบิน, การวางแผนเส้นทางที่ยุ่งยาก และกำแพงภาษา

นี่คือจุดที่ Variety Holiday เชี่ยวชาญที่สุดครับ!

ในขณะที่คุณใช้พลังงานวางแผนเที่ยวในประเทศด้วยตัวเอง… ปล่อยให้เรื่อง “ยุ่งยาก” ของการเที่ยวต่างประเทศ เป็นหน้าที่ของเราครับ

ทำไมต้องให้ Variety Holiday ดูแลทริปต่างประเทศของคุณ?

1. ความเชี่ยวชาญที่ “รู้ลึก รู้จริง”: เราไม่ใช่แค่จัดทัวร์ แต่เราคือ “ผู้ออกแบบประสบการณ์” เรารู้ว่าคนไทยชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มุมถ่ายรูปไหนปัง ร้านอาหารไหนต้องลอง
2. หลากหลายสมชื่อ “Variety”: เรามีโปรแกรมทัวร์ครอบคลุมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นทริปสายชิล สายลุย สายช้อปปิ้ง หรือสายวัฒนธรรม เราจัดให้ได้ตรงใจคุณ
3. ประหยัดเวลาและ “ไร้กังวล”: คุณมีหน้าที่แค่เก็บกระเป๋าและเตรียมกล้องให้พร้อม! เรื่องวีซ่า, ที่พัก, การเดินทางที่ซับซ้อน… เราจัดการให้คุณทั้งหมด (All-in-One)
4. บริการด้วยหัวใจ (E-A-T ในแบบบริการ): เราสร้างความน่าเชื่อถือ (Trust) ด้วยการบริการที่ใส่ใจ ดูแลคุณเหมือนคนในครอบครัวตลอดการเดินทาง

เที่ยวเมืองรองปลายปีนี้ให้สนุกครับ… และเมื่อคุณพร้อมสำหรับ “ทริปในฝัน” ครั้งถัดไป… อย่าลืมนึกถึง Variety Holiday นะครับ!