กินเจปี 68 วันไหน เที่ยวเทศกาลกินเจ 2568

Summarize Post :

  • เทศกาลกินเจ 2568 เริ่ม 21-29 ต.ค.: เป็นเทศกาลถือศีล 9 วัน 9 คืน เพื่อชำระกายใจ งดเนื้อสัตว์และผักฉุน 5 ชนิด โดยหลายพื้นที่เริ่มจัดงานอุ่นเครื่องตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.
  • รวม 6 พิกัดไฮไลต์ทั่วไทย:
    • เยาวราช: ที่สุดของสตรีทฟู้ดเจ (20-29 ต.ค.)
    • ภูเก็ต: ต้นตำรับพิธีแห่พระ ม้าทรง (21-29 ต.ค.)
    • หาดใหญ่: ธีม Go Green อาหารเจ 100+ ร้าน (20-29 ต.ค.)
    • สมุทรสาคร: นั่งรถรางฟรี ไหว้เจ้า 9 ศาล (20-29 ต.ค.)
    • นครสวรรค์: โรงเจทานฟรี 3 เวลา ที่ศาลเจ้าแม่หน้าผา (21-29 ต.ค.)
    • ชลบุรี: พิธีเสาตะเกียงและขบวนแห่สุดอลังการ (20-29 ต.ค.)
  • มากกว่าการกิน คือความศรัทธา: การกินเจคือการบูชาเทพเจ้า “กิวอ๋อง ฮุกโจ้ว” โดยมีหัวใจสำคัญคือการรักษาศีล และชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ ควบคู่ไปกับการไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิต

เสียงประทัดที่ดังเป็นจังหวะ กลิ่นธูปหอมที่ลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ และ “ธงเหลือง” ที่ประดับประดาสองข้างทาง… นี่คือสัญญาณสวรรค์ครับ! สัญญาณที่บอกว่า “เทศกาลกินเจ 2568” มหากุศลครั้งยิ่งใหญ่แห่งปีกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว!

ปีนี้ เทศกาลถือศีลกินผัก (หรือที่เราเรียกติดปากว่า “กินเจ”) จะจัดขึ้นอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 21 – 29 ตุลาคม 2568 (รวม 9 วัน 9 คืน) แต่ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะย่านร้านค้า จะเริ่มอุ่นเครื่องตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม กันเลยทีเดียว

ผมมองว่าเทศกาลนี้ไม่ใช่แค่ “เทรนด์” การกินอาหารคลีน หรือการงดเนื้อสัตว์ชั่วคราว แต่มันคือ “นวัตกรรมทางจิตวิญญาณ” ที่เก่าแก่หลายร้อยปี เป็นการ “รีเซ็ต” ร่างกายและจิตใจครั้งใหญ่ประจำปีครับ มันคือการผสานความศรัทธา (การไหว้พระ) สุขภาพ (อาหารเจ) และความสนุกสนาน (งานเทศกาล) เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

หลายคนอาจจะกำลังวางแผน… “กินเจปีนี้ ไปที่ไหนดี?” “ที่ไหนของกินเจอร่อยๆ เยอะ?” “ที่ไหนมีพิธียิ่งใหญ่?”

ไม่ต้องห่วงครับ! ผมได้รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมด กลั่นกรองออกมาเป็น “สุดยอดลายแทง 6 พิกัดงานกินเจ 2568 ทั่วไทย” ที่คัดมาแล้วว่าเด็ดจริง อิ่มบุญ อิ่มท้อง และอิ่มใจแน่นอน คุณพร้อมจะไปสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษนี้หรือยังครับ?


ถือศีลกินผัก vs กินเจ: ขอเคลียร์…ลึกซึ้งกว่าแค่ไม่กินเนื้อ!

ก่อนที่เราจะไปตะลุยพิกัดต่างๆ ผมขอใช้เวลาสักนิดเพื่อสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้ง (Expertise) กันก่อนครับ หลายคนยังสับสนระหว่าง “มังสวิรัติ” (Veggie) กับ “กินเจ” (J-Food)

รู้ไหมครับว่า “เจ” (齋) ในภาษาจีน ไม่ได้แปลว่า “ผัก” แต่แปลว่า “การชำระล้างให้บริสุทธิ์”

ดังนั้น การกินเจที่แท้จริงจึงเข้มงวดกว่ามากครับ ไม่ใช่แค่การไม่กินเนื้อสัตว์ แต่ยังรวมถึง:

  1. งดผักฉุน 5 อย่าง: กระเทียม, หอม (ทุกชนิด), กุยช่าย, หลักเกียว (กระเทียมโทนจีน) และใบยาสูบ เพราะเชื่อว่าผักเหล่านี้มีกลิ่นแรง กระตุ้นอารมณ์ และทำลายพลังธาตุในร่างกาย
  2. รักษาศีล 5 (หรือ ศีล 8): ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่โกหก ไม่ลักทรัพย์ ฯลฯ
  3. ชำระภาชนะ: คนที่กินเจเคร่งครัดจะ “ล้างเจ” คือล้างภาชนะเครื่องครัวทั้งหมดไม่ให้มีกลิ่นคาวติดค้าง
  4. นุ่งขาวห่มขาว: เพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ทั้งกายและใจ

เทศกาลนี้คือการบูชา “กิวอ๋อง ฮุกโจ้ว” (ราชาธิราช 9 พระองค์) และ “เต้าบ้อเนี้ย” (มารดาแห่งดวงดาว) นี่คือแก่นแท้ของความศรัทธา (Authoritativeness) ที่ทำให้เทศกาลนี้ขลังและยิ่งใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้ครับ


ปักหมุด! 6 สุดยอด “งานกินเจ 2568” ที่ต้องไปสักครั้งในชีวิต

เอาล่ะครับ เมื่อเข้าใจแก่นแท้แล้ว ก็ถึงเวลาเดินทาง! ผมคัด 6 พิกัดไฮไลต์จากทั่วประเทศที่จัดงานได้ยิ่งใหญ่และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาให้แล้ว

1. “กินเจ เยาวราช 2568”: ตำนานถนนมังกร อาหารเจอร่อยที่สุดในโลก! (กรุงเทพฯ)

ถ้าพูดถึง “อาหารเจ” ที่หลากหลายและอร่อยที่สุดในโลก ผมขอยกให้ “เยาวราช” ครับ! ในช่วงเทศกาล (ปีนี้เริ่ม 20-29 ตุลาคม 2568) ถนนทั้งสายจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองอร่ามไปด้วยธงเจและผู้คนที่นุ่งขาวห่มขาว

นี่คือประสบการณ์ (Experience) ที่คุณจะได้สัมผัสกับ “สตรีทฟู้ดเจ” ที่สร้างสรรค์ที่สุดในโลก! ลืมภาพจำเก่าๆ ของอาหารเจจืดชืดไปได้เลย ที่นี่มีทั้งเป็ดพะโล้เจ, หูฉลามเจ, กุ้งอบวุ้นเส้นเจ, ซาลาเปา, ขนมหวาน และอีกสารพัดเมนูที่ “อร่อยจนลืมว่านี่คือเจ”

ห้ามพลาด: “สัมพันธ์ ผัดหมี่ 50 ปี ไทย – จีน” (กระทะยักษ์)

ไฮไลต์เด็ดที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ (Authoritativeness) คือการปรุงอาหารมงคลกระทะใหญ่ “สัมพันธ์ ผัดหมี่ 50 ปี ไทย – จีน” ที่จะแจกจ่ายมากถึง 1,550 จาน! กลิ่นหอมของเส้นหมี่ที่ผัดบนกระทะยักษ์ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดี… นี่คือภาพจำของเยาวราชที่แท้จริง

ไฮไลต์พิธีศักดิ์สิทธิ์ (ต้องตามเก็บ!)

  • 20 ต.ค.: พิธีแห่อัญเชิญเทพเจ้า “กิวอ๋อง ฮุกโจ้ว” (14.00-16.00 น.) – เป็นการเริ่มงาน
  • 21 ต.ค.: พิธีเปิดงานสุดอลังการ (16.00-21.00 น.)
  • 26 ต.ค.: พิธีลอยกระทงเจ (14.00-21.00 น.)
  • 29 ต.ค.: พิธีซิโกว (พิธีทิ้งกระจาดโปรดดวงวิญญาณ) (17.00-19.00 น.)

แนะนำการเดินทาง (Pro-Tip)

ลืมเรื่องการขับรถมาจอดไปได้เลยครับ! นี่คือคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ (Experience) จริง วิธีที่ดีที่สุดคือ รถไฟฟ้า MRT ลง “สถานีวัดมังกร” ครับ โผล่ขึ้นมาก็คือใจกลางงานเลย สะดวก รวดเร็ว และไม่เสียอารมณ์กับรถติดแน่นอน


2. “กินเจ ภูเก็ต 2568”: 200 ปีแห่งศรัทธา…ต้นตำรับ “ประเพณีถือศีลกินผัก” (ภูเก็ต)

ถ้าเยาวราชคือ “ที่สุดของอาหาร” ภูเก็ตก็คือ “ที่สุดของความศรัทธาและพิธีกรรม” ครับ (21-29 ตุลาคม 2568) ที่นี่เขาไม่เรียก “กินเจ” แต่เรียก “เจี๊ยะฉ่าย” หรือ “ประเพณีถือศีลกินผัก” ซึ่งปีนี้มีความพิเศษคือการฉลองครบรอบ 2 ศตวรรษ (200 ปี) แห่งการสืบสาน!

ที่นี่คือต้นตำรับ (Expertise) ที่เข้มขลังที่สุดในไทย บรรยากาศจะแตกต่างจากที่อื่นอย่างสิ้นเชิง คุณจะได้ยินเสียงประทัดดังสนั่นหวั่นไหวแทบจะ 24 ชั่วโมง

“ม้าทรง” และพิธีกรรมสุดขลัง (Authoritativeness)

จุดเด่นที่ดึงดูดคนทั่วโลกคือ “พิธีแห่พระรอบเมือง” (อิ้วเก้ง) และการแสดงอิทธิฤทธิ์ของ “ม้าทรง” (ร่างทรงของเทพเจ้า) ครับ นี่คือภาพที่คุณจะเห็นการใช้ของมีคมทิ่มแทงร่างกาย (พิธีสะเดาะเคราะห์) การลุยไฟ หรือการไต่บันไดมีด ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่บนพื้นฐานของความศรัทธาอันแรงกล้า (คำเตือน: เป็นความเชื่อส่วนบุคคลและอาจมีภาพที่น่าหวาดเสียว)

ตะลุยกิน “อาหารเจพื้นเมืองภูเก็ต”

อาหารเจที่ภูเก็ตจะไม่ใช่แค่การ “เลียนแบบ” ของคาว แต่เป็นเมนูท้องถิ่นแท้ๆ ครับ ต้องลอง “หมี่หุ้นผัดเจ” (ผัดกับซีอิ๊วและผักกาด) “โอวต้าวเจ” (คล้ายหอยทอดแต่ใช้เผือก) และ “ขนมอาโป๊ง” ที่ขายตามหน้าศาลเจ้า (อ๊าม) ต่างๆ

  • พิกัดหลัก: ศาลเจ้า (อ๊าม) ต่างๆ ทั่วภูเก็ต เช่น ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง, ศาลเจ้าบางเหนียว ฯลฯ

3. “งานกินเจ หาดใหญ่ 2568”: อิ่มใจสายกรีน “เทศกาลกินเจ Go Green” (สงขลา)

ลงใต้มาอีกนิดที่หาดใหญ่ (20-29 ตุลาคม 2568) ที่นี่เขามีธีมที่ “ทันสมัย” และตอบโจทย์คนยุคใหม่มากๆ ครับ นั่นคือ “เทศกาลกินเจหาดใหญ่ Go Green” ไม่ใช่แค่อิ่มท้อง แต่โลกต้องสะอาดด้วย! (Trustworthiness)

งานนี้จัดที่ สวนหย่อมศุภสารรังสรรค์ (สวนหย่อมเซี่ยงตึ้ง) จุดเด่นคือการรณรงค์ให้ร้านค้ากว่า 100 ร้าน ไม่ใช้ภาชนะโฟม และเน้นอาหารเจที่ “สะอาด ปลอดภัย ลด หวาน มัน เค็ม” เป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

ไฮไลต์ “ซุ้มทานบุญ” และกิจกรรมครอบครัว

  • 21 ต.ค.: พิธีเปิดและแจกอาหารฟรีที่ “ซุ้มทานบุญ”
  • 25 ต.ค.: การประกวด “หนูน้อยเจี๊ยะฉาย” (น่ารักมากๆ ครับ)
  • 26 ต.ค.: ขบวนแห่พระรอบเมืองหาดใหญ่
  • 26-27 ต.ค.: การแสดงสิงโต – มังกร สุดตระการตา

ที่นี่เหมาะสำหรับครอบครัวที่อยากปลูกฝังการทำบุญและรักษ์โลกไปพร้อมๆ กันครับ


4. “กินเจ สมุทรสาคร 2568”: นั่งรถรางฟรี “ไหว้เจ้า 9 ศาล” (สมุทรสาคร)

ขยับมาที่จังหวัดเพื่อนบ้านกรุงเทพฯ อย่างสมุทรสาคร (20-29 ตุลาคม 2568) ที่นี่มี “กิมมิค” ที่สนุกและสร้างประสบการณ์ร่วม (Experience) ได้ดีมากๆ นั่นคือ “นั่งรถรางฟรี ไหว้เจ้า 9 ศาล” ครับ

นี่คือนวัตกรรมการท่องเที่ยวเชิงศรัทธาที่ยอดเยี่ยม! นักท่องเที่ยวไม่ต้องขับรถวนหาเองให้เหนื่อย แค่มาจุดเริ่มต้น เขาก็มีรถรางบริการพาไปสักการะศาลเจ้าสำคัญ 9 แห่ง

ภารกิจ “Passport 9 ศาล” แลก “เหรียญมงคล”

ความสนุกอยู่ตรงนี้ครับ! เมื่อคุณไหว้ครบทั้ง 9 ศาล และประทับตราลงใน Passport (สมุดเดินทาง) จนครบ สามารถนำไปขอรับ “เหรียญมงคล” ประจำปี 2568 ได้ฟรี! (จำกัดแค่ 10,000 เหรียญ ที่ศาลเจ้าแม่จุ๊ยบ๋วยเนี้ย หรือ ศาลเจ้าแม่ทับทิม ท่าฉลอม)

จุดรวมพลคนหิว: ลานศาลเจ้าพ่อหลักเมืองฯ

หลังจากอิ่มบุญแล้ว ก็มาอิ่มท้องกันต่อที่ลานข้าง ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ที่นี่มีร้านอาหารเจกว่า 80 ร้านค้า รวมเมนูเด็ดกว่า 100 เมนู!


5. “กินเจ นครสวรรค์ 2568”: เมืองปากน้ำโพ…อิ่มฟรี! ที่ศาลเจ้าแม่ (หน้าผา)

สำหรับสายบุญที่อยาก “อิ่มจริง” แบบไม่เสียสตางค์ ต้องมุ่งหน้าไปที่นครสวรรค์เลยครับ! (21-29 ตุลาคม 2568) ที่ ศาลเจ้าแม่ (หน้าผา) เขามี “โรงเจ” ที่ยิ่งใหญ่มาก

ที่นี่เขาจัด “อาหารเจมงคล ทานฟรี ตลอดทั้งวัน” (ตั้งแต่ 07.00 – 19.00 น.) รสชาติอร่อยจนคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “การทานเจไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป” นี่คือความมีน้ำใจ (Trustworthiness) ที่แท้จริงของคนไทยครับ

เปิดตารางเวลา “อาหารเจมงคล” (3 รอบ)

วางแผนไปให้ตรงเวลานะครับ อาหารจะออกเป็นรอบๆ:

  • รอบเช้า: 07.00 น.
  • รอบเที่ยง: 11.30 น.
  • รอบเย็น: 17.00 น.

ของมงคลสายมู: แจกฟรี “แผ่นทองเจ้าแม่ทับทิม”

นอกจากอิ่มท้องแล้ว ยังมีของมงคลแจกฟรี! “เเผ่นทองเจ้าเเม่ทับทิม รุ่นโชคทรัพย์ นับอนันต์” (จำกัด 188 แผ่น) สำหรับผู้ที่ร่วมกิจกรรม ณ ศาลเจ้า 3 แห่งที่ร่วมรายการ (ศาลเจ้าแม่หน้าผา, ศาลเจ้าพ่อ-เจ้าแม่ศูนย์การค้าท่ารถฯ, และศาลเจ้าพ่อมังการทอง)


6. “กินเจ ชลบุรี 2568”: อลังการ “ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ” อ่างศิลา (ชลบุรี)

ปิดท้ายด้วยความอลังการ (Authoritativeness) ที่ ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ อ่างศิลา ชลบุรี (20-29 ตุลาคม 2568) ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมที่วิจิตรตระการตาอยู่แล้ว และในช่วงกินเจ ก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีกครับ

สัญลักษณ์เริ่มงาน: “พิธีอัญเชิญยกเสาตะเกียง 9 ดวง”

หากคุณอยากเห็น “จุดเริ่มต้น” ของเทศกาลอย่างแท้จริง ต้องมาดู “พิธีอัญเชิญยกเสาตะเกียง 9 ดวง” ครับ นี่คือสัญลักษณ์การอัญเชิญองค์กิ๋วอ๊วงไต่ตี่ (เทพเจ้าประธานของงาน) มาเป็นประธานในพิธี ถือเป็นการประกาศเริ่มงานกินเจอย่างเป็นทางการ

ห้ามพลาด: ขบวนแห่ยิ่งใหญ่ (23 ต.ค.)

ในวันที่ 23 ตุลาคม 2568 (ตั้งแต่ 15.39 น. เป็นต้นไป) จะมี พิธีเคลื่อนขบวนแห่อัญเชิญพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อประทานพรแก่ศิษยานุศิษย์ในตลาดเก่าอ่างศิลาและรอบตลาดเมืองชลบุรี เป็นภาพที่สวยงามและเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งศรัทธาครับ


กินเจปี 68 วันไหน เที่ยวเทศกาลกินเจ 2568

กินเจ 2568 ที่บ้าน…ทำยังไงให้ “คลีน” ทั้งกายใจ?

สำหรับคนที่ไม่สะดวกเดินทางไปตามพิกัดใหญ่ๆ หรืออยากลอง “กินเจ” ที่บ้าน มีเคล็ดลับ (Expertise) มาฝากครับ

เคล็ดลับ “ล้างเจ” (ล้างครัว)

ก่อนเริ่มวันแรก (คืนวันที่ 20 ต.ค.) หากคุณเคร่งครัด ควร “ล้างเจ” ครับ คือการทำความสะอาดหม้อ กระทะ จาน ชาม ช้อนส้อม ทั้งหมด ด้วยน้ำร้อนหรือน้ำชา เพื่อชะล้างกลิ่นคาวเนื้อสัตว์ออกให้หมด และแยกภาชนะชุดใหม่สำหรับช่วง 9 วันนี้โดยเฉพาะ

มองหา “ธงเหลือง” สัญลักษณ์ความบริสุทธิ์

เวลาไปซื้ออาหารเจทานนอกบ้าน ให้มองหาร้านที่มี “ธงเหลือง” ที่มีตัวอักษรจีนสีแดงว่า “齋” (เจ) ปักอยู่หน้าร้านครับ นี่คือสัญลักษณ์สากลที่การันตีว่าร้านนี้ปรุงอาหารถูกต้องตามหลักการถือศีลกินเจ (คือไม่ใช้เนื้อสัตว์และไม่ใช้ผักฉุน 5 อย่าง)

varietyholiday ทัวร์ท่องเที่ยวต่างประเทศ

โปรโมชั่น

ข่าวประชาสัมพันธ์

 

varietyholiday ทัวร์ท่องเที่ยวต่างประเทศ


บทสรุปโดย นี่คือเทศกาลแห่ง “การเริ่มต้นใหม่”

เทศกาลกินเจ 2568 ไม่ใช่แค่ 9 วันแห่งการงดเนื้อสัตว์ครับ แต่มันคือ 9 วันแห่งการ “รีเซ็ต” (Reset) ร่างกาย, 9 วันแห่งการ “ขัดเกลา” (Refine) จิตใจ และ 9 วันแห่งการ “เชื่อมต่อ” (Reconnect) กับพลังบวกและสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ไม่ว่าคุณจะเลือกไปสัมผัสความอลังการที่เยาวราช ความขลังที่ภูเก็ต ความกรีนที่หาดใหญ่ ความสนุกที่สมุทรสาคร ความอิ่มฟรีที่นครสวรรค์ หรือความยิ่งใหญ่ที่ชลบุรี… ขอเพียงคุณทำด้วย “จิตที่บริสุทธิ์”

ผมเชื่อว่า 9 วันนี้ จะมอบพลังงานใหม่ๆ และสิริมงคลอันยิ่งใหญ่ให้กับชีวิตคุณไปตลอดทั้งปีแน่นอนครับ… อิ่มเจ อิ่มบุญ อิ่มใจ ไปด้วยกันนะครับ!


คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. กินเจ 2568 ต้องใส่ชุดขาวตลอด 9 วันเลยไหม?

  • ตอบ: การใส่ชุดขาวถือเป็น “อุดมคติ” เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ครับ แต่ไม่ได้บังคับ 100% หากคุณไม่สะดวก (เช่น ทำงานที่มียูนิฟอร์ม) ก็ไม่เป็นไรครับ ขอแค่ “ใจ” เราสะอาดและตั้งมั่นในการถือศีลก็เพียงพอแล้ว แต่หากไปร่วมพิธีในศาลเจ้า การแต่งกายสีขาวจะเหมาะสมที่สุดครับ

2. เผลอกินเนื้อสัตว์ระหว่างกินเจ (เจแตก) ทำอย่างไรดี?

  • ตอบ: ไม่ต้องกังวลหรือโทษตัวเองครับ! ให้ตั้งสติ เริ่มต้นใหม่ในมื้อถัดไป หรือบางคนอาจจะนับ 1 ใหม่ (เช่น เผลอวันที่ 3 ก็เริ่มนับ 1 ใหม่) หรือจะแค่ข้ามมื้อนั้นไปแล้วกินเจต่อเลยก็ได้ หัวใจสำคัญคือ “เจตนา” ครับ ไม่ได้ตั้งใจย่อมไม่ผิดร้ายแรงครับ

3. กินเจ ดื่มกาแฟ หรือ ช็อกโกแลต ได้ไหม?

  • ตอบ:
    • กาแฟดำ: ดื่มได้ครับ (เมล็ดกาแฟคือพืช)
    • กาแฟใส่นม: ดื่มไม่ได้ เพราะนมวัว นมแพะ ถือเป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ (ต้องเปลี่ยนเป็น นมถั่วเหลือง, นมอัลมอนด์, หรือนมข้าวโอ๊ต ที่ไม่มีส่วนผสมอื่น)
    • ช็อกโกแลต: ต้องดูส่วนผสมครับ “ดาร์กช็อกโกแลต” แท้ๆ (ที่ไม่มีนมผง) ทานได้ แต่ “มิลค์ช็อกโกแลต” (ช็อกโกแลตนม) ทานไม่ได้ครับ

4. ทำไมต้องมี “พิธีแห่พระ” หรือ “ม้าทรง” ที่ดูน่ากลัว?

  • ตอบ: นี่คือส่วนหนึ่งของความเชื่อ (Expertise) ใน “ประเพณีถือศีลกินผัก” (โดยเฉพาะสายภูเก็ต) ครับ เชื่อกันว่า “ม้าทรง” คือร่างที่เทพเจ้าประทับ เพื่อมาโปรดสัตว์และ “รับเคราะห์” แทนมนุษย์ การแสดงอิทธิฤทธิ์จึงเป็นการสะเดาะเคราะห์ภัยให้แก่ผู้ศรัทธาครับ

5. ถ้าไม่สะดวกไปศาลเจ้าเลย กินเจที่บ้านจะได้บุญเท่ากันไหม?

  • ตอบ: ได้บุญแน่นอนครับ! การกินเจคือการ “ปฏิบัติบูชา” อย่างหนึ่ง คือการรักษาศีล, การงดเว้นการเบียดเบียน (ไม่กินเนื้อสัตว์) และการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ แม้คุณจะทำที่บ้าน สวดมนต์ที่บ้าน บุญกุศลก็เกิดจาก “เจตนา” ที่ดีของคุณเต็มเปี่ยมครับ

เนื้อหาอ้างอิง


ทำไมต้องใช้บริการทัวร์ต่างประเทศกับเรา varietyholiday 

คุณเคยเหนื่อยไหมครับ… กับการใช้เวลาหลายสิบชั่วโมงเพื่อวางแผนเที่ยวต่างประเทศ?

ทริปในฝัน… ให้เราเปลี่ยนมันเป็น “ความจริง”

ไหนจะต้องไล่เช็กราคาตั๋วเครื่องบินที่ผันผวน, อ่านรีวิวโรงแรมตาแฉะเพื่อหา “ของจริง” ที่ไม่จกตา, กังวลกับเส้นทางเดินทางในเมืองที่ไม่คุ้นเคย, และลุ้นว่าร้านอาหารที่ปักหมุดไว้จะอร่อยสมคำร่ำลือหรือเปล่า…

หยุด! ให้ “ความยุ่งยาก” ทั้งหมดนั้น… เป็นหน้าที่ของเราครับ

เราเชื่อมั่นว่า “การพักผ่อน” ที่แท้จริง คือการที่คุณได้ใช้ทุกวินาทีไปกับการ ซึมซับประสบการณ์ ไม่ใช่การ แก้ปัญหา

ทำไมต้องให้มืออาชีพดูแลการเดินทางของคุณ?

  • เราคือ “ผู้คัดสรร” ประสบการณ์ (Expertise): เราไม่ได้แค่พาคุณไป “ที่เที่ยว” แต่เราออกแบบการเดินทางที่ “ใช่” สำหรับคุณ เรารู้ว่ามุมไหนถ่ายรูปสวยที่สุด ร้านอาหารลับของคนท้องถิ่นอยู่ที่ไหน และที่พักไหนที่จะทำให้คุณหลับสบายที่สุด
  • เราประหยัด “เวลา” อันมีค่าของคุณ (Experience): เราจัดการเรื่องน่าปวดหัวทั้งหมดให้ ตั้งแต่การขอวีซ่า, จองไฟลต์, ที่พัก, รถรับส่ง ไปจนถึงตั๋วเข้าชม คุณมีหน้าที่แค่เก็บกระเป๋าและเตรียมตัวให้พร้อม
  • เราคือ “ความอุ่นใจ” ตลอดทริป (Trustworthiness): ด้วยเครือข่ายและทีมงานมืออาชีพ (Authority) ทั้งในไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเกิดเหตุฉุกเฉิน, กระเป๋าหาย, หรือปัญหาหน้างาน… เราพร้อมเป็นที่พึ่งและแก้ไขให้คุณทันที 24 ชั่วโมง

อย่าปล่อยให้ทริปในฝันของคุณต้องสะดุดเพราะความกังวล

ให้ความเชี่ยวชาญของเรา เปลี่ยนการเดินทางที่ซับซ้อน ให้กลายเป็นการพักผ่อนที่ไร้รอยต่อและน่าประทับใจที่สุดสำหรับคุณ

พร้อมหรือยัง? สำหรับการเดินทางที่เหนือกว่า

ติดต่อเราวันนี้ เพื่อปรึกษาเส้นทางในฝันของคุณ… ฟรี!

ทัวร์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง